การจองตั๋วเครื่องบิน
เราสามารถแบ่งการจองออกเป็น 2 แบบ นั่นคือ
1. จองผ่านสายการบินโดยตรง
2. จองผ่านตัวแทน
(และแบบพิเศษคือ ให้เพื่อนจองให้ 55)
การจองทั้ง 2 แบบก็แยกออกไปได้อีกเป็น
1. การไปจองเองที่เคาเตอร์สายการบิน หรือที่บริษัทตัวแทน เอกสารที่ควรเตรียมไปก็คือพาสปอร์ต เพื่อให้สะกดชื่อได้ถูกต้อง2. การจองผ่านทางโทรศัพท์ หรืออีเมล์ ซึ่งบางสายการบินจะมีการคิดค่าบริการจองผ่านโทรศัพท์ เข้าใจว่าที่คิดเงินเนื่องจากกว่าจะทำรายการได้ ช้ามาก ต้องคอยมาสะกดชื่อกันอีก ใครชื่อยาวมี h s c t เยอะกว่าต้องมาบอก ซีแคท เอชฮ่องกง เอสสิงคโปร์กันวุ่นวาย เมื่อจองเรียบร้อยก็จะมีเมลส่งมาให้รีเช็คกันอีกครั้ง (หรือตัวแทนบางรายจะให้ส่งเมลติดต่อกันแต่แรกเลย เพื่อจะได้ไม่ต้องสะกดชื่อป้องกันการผิดพลาด)
3. จองผ่านทางเว็บไซต์ ทั้งเว็บของสายการบิน เช่น การบินไทย ออลนิปปอนแอร์เวย์ เจแปนแอร์ไลน์ สิงคโปร์แอร์ไลน์ คาเธ่ย์แปซิฟิค เวียดนามแอร์ไลน์ แอร์มาเก๊า เดลต้าแอร์ไลน์ แอร์เอเซีย และบลาๆๆๆๆๆ และเว็บของตัวแทน เช่น Expedia Traveloka Cheaptickets H.I.S. Hflight TG191 และบลาๆๆๆ
วันนี้เรามาดูวิธีการจองตั๋วโดยตรงผ่านเว็บไซต์ของสายการบินกันเถอะ (จริงๆ แล้ววิธีการจองแทบไม่ต่างกันเลยในแต่ละสายการบินหรือตัวแทน ที่ทำให้ดูต่างกันคือเว็บเพจ และขั้นตอนต่างๆ อย่าง ANA กรอกชื่อผู้เดินทางก่อนค่อยเลือกที่นั่ง ขณะที่ JAL ให้เลือกที่นั่งก่อน)
เลือกมา 1 สายการบินเป็นตัวอย่างแล้วกันเนอะ ^^
เริ่มจากเข้าไปหน้าเว็บไซต์ของสายการบินนั้นๆ
1. เลือกเมืองต้นทาง คือ BKK (Bangkok) เลือกเมืองปลายทางที่ต้องการเดินทาง ถ้าเราไม่รู้สนามบินก็พิมพ์ชื่อประเทศ หรือเมืองที่ต้องการได้ เช่น พิมพ์ Singapore ก็จะขึ้นมาให้เลือกว่าเราจะไปลงสนามบินที่ไหน หรือถ้าไปโตเกียวจะมี 2 สนามบินให้เลือกคือ สนามบินนาริตะ (NRT) และสนามบินฮาเนดะ (HND) หรือถ้ายังเลอกไม่ได้ก็พิมพ์ว่าโตเกียว (TYO) เลยก็ได้
2. เลือกวันที่ต้องการเดินทางไป-กลับ และจำนวนผู้โดยสารที่เป็นผู้ใหญ่ และเด็ก (อายุเด็กขึ้นกับแต่ละสายการบินจะกำหนด) เมื่อเลือกเรียบร้อยก็กดค้นหาได้เลย
3. เลือกราคาตั๋วที่ต้องการ (บางสายการบินจะเป็นราคาเฉพาะค่าตั๋วเครื่องบิน บางสายจะเป็นราคารวมทั้งหมด) เลือกที่ต้องการและช่วงที่เราไปได้แล้วกดถัดไป
อย่าลืมนะว่าบางวันแม้จะราคาถูก แต่ไม่เอื้ออำนวยกับวันเดินทางของเรา ดังนั้นเลือกที่ใช่ที่สุด เพราะถูกที่สุดก็ไม่ได้หมายความว่าดีที่สุดนะ
4. เมื่อเลือกราคาถูกที่สุดของวันที่เดินทางได้แล้ว เราก็มาเลือกเที่ยวบินในวันนั้น ซึ่งบางครั้งเที่ยวบินที่เวลาเดินทางดี คนจองกันเยอะแล้ว เราอาจจะต้องจ่ายแพงขึ้นเพื่อเวลาที่ต้องการ หรือยอมตัดใจเวลาที่ต้องการ เพื่อประหยัดเงินในกระเป๋า(ระวังบางเที่ยวบินที่นั่งเหลือน้อย จะมีแจ้งมาว่าเหลือให้เลือกกี่ที่งนั่ง โดยมากจะขึ้นเมื่อเหลือน้อยกว่า 6 ที่ันั่ง) เมื่อเลือกได้แล้วก็กดถัดไป
6. กรอกรายละเอียดของผู้เดินทาง ชื่อ นามสกุล ด้วยภาษาอังกฤษตัวพิมพ์ใหญ่ โดยไม่ต้องกรอกคำนำหน้าชื่อ และต้องตรงกับพาสปอร์ต (ตามตัวอย่างที่ขึ้นโชว์จะเห็นว่าระบบไม่ได้รีเควสว่าต้องใส่คำนำหน้าชื่อ) เลือกเพศ วันเดือนปีเกิด (ค.ศ.) เบอร์โทรศัพท์ และอีเมลที่ใช้ได้จริง
7. ระบบจะขึ้นเตือนว่าไม่สามารถแก้ไขชื่อ นามสกุลได้ ดังนั้นต้องตรวจสอบให้ดีๆ ตรงนี้ระบบจะบอกอีกครั้งว่า มิสเตอร์เดวิด เวลากรอกชื่อ กรอกแค่เดวิด ด้วยตัวพิมพ์ใหญ่ เมื่อถูกต้องแล้วกดตกลง
8. ขั้นตอนการเลือกที่นั่งและบริการเสริมต่างๆ ชื่อเราตรงนี้จะมีคำนำหน้าชื่อขึ้นให้โดนอัตโนมัติ โดยระบบจะดูจากตอนเราเลือกเพศและอายุ กดเลือกที่นั่ง
9. เลือกที่นั่งที่ต้องการ โดยแถบสีเทาๆ ที่อยู่ข้างที่นั่งแถวที่ 15-17 คือแถบแสดงว่าตรงนี้คือปีกของเครื่องบิน ถ้าเรานั่งก็จะเห็นปีกเครื่องบินตลอดทาง คำแนะนำคือ เลือกมาแถวหลังๆ จะดีกว่า ได้เห็นปีก เห็นเครื่อง (บางรุ่น) เห็นวิว ตรงที่นั่งสีฟ้าๆ คือที่นั่งว่างที่เราเลือกได้ (ที่นั่งสีฟ้าและมีกากบาทสีแดงให้เอาเม้าส์ไปวางค้างไว้จะมีบอกรายละเอียด บางที่นั่งจะเป็นประตูฉุกเฉิน บางที่นั่งไม่มีหน้าต่าง ไม่ควรเลือก) เครื่องบินแต่ละรุ่น และแต่ละสายการบินจะจัดที่นั่งไม่เหมือนกัน เราสามารถดูได้จากตอนเลือกที่นั่ง โดยจะมีตั้งแต่ 3-3, 3-3-3, 3-4-3, 2-4-2 ในรูปโซน 3-3-3 คือโซนของชั้นประหยัด ส่วนโซน 2-3-2 บางครั้งจะเป็นชั้นธุรกิจ หรือชั้นประหยัดพรีเมี่ยม
10. เมื่อเลือกที่นั่ง อาหารพิเศษ (ซีฟู้ดส์ อาหารมังฯ) ก็จะมายังหน้าสรุปรวมราคา เพื่อชำระเงินผ่านบัตรเครดิต หรือบัตรเดบิต(ที่เปิดใช้การซื้อของผ่านอินเตอร์เน็ตแล้วนะ) อย่าลืมคลิกเลือกเงื่อนไขการชำระเงินด้วยนะ กดซื้อแล้วกรอกรหัส OTP เพื่อชำระเงิน เรียบร้อย รอรับเมลและ e-ticket ได้เลย
12. หน้าตา e-ticket ที่เราได้รับหลังจากซื้อตั๋วเรียบร้อยแล้ว พิมพ์ออกมาเก็บไว้เตรียมบินได้เลย ^^