Japan1 #10

หมดเวลาสนุกแล้วสิ วันที่ 9 พ.ค. 53 ต้องกลับไทยแล้ว ตื่นแต่ตี 3 มองหน้าต่าง มองนาฬิกา มองหน้าต่างแล้วก็มองนาฬิกาอีก นาฬิกาไม่เสีย งั้นแสดงว่าที่นี่เช้าเร็วเกินไปสินะ (จะเช้าเร็วเกินไปแล้ว ตี 3 เหมือนกำลังจะรุ่งสางบ้านเรา) อาบน้ำแต่งตัวเวฟข้างกล่องที่ซื้อจากคุณป้าใจดีเมื่อวาน ข้าวกล่องที่อิ่มและราคาถูกมาก กล่องละ 262 เยน สองกล่องคิด 525 เยน มีลูกอมแถมมาให้ 4 เม็ด

ข้าวแล้วก็ต้องมีน้ำสิ แต่เราไม่ดื่นน้ำธรรมดา เมื่อวานแวะซื้อไว้แล้ว นมกล้วยหอม ราคาไม่ถึง 100 เยน ถูกและอร่อยมาก (ลูกอมด้านหลังคือของแถมจากร้านข้าว อร่อยนะ)

สำรวจห้องก่อน เรียบร้อย พร้อมออกเดินทาง ขามามี 2 กระเป๋าเดินทาง 1 กระเป๋าเป้ 1 กระเป๋าโน๊ตบุ๊ค  ขากลับเพิ่มกระเป๋าใส่ของที่ฝากซื้ออีก 1 ใบ (ค่ากระเป๋าน่าจะ 1500 เยนถ้าจำไม่ผิด)

กลับด้วยรถไฟเคย์เซย์เหมือนเดิม มาถึงเช้ามาก มีคนรอแค่ 1-2 คนเอง นั่งหลับๆ ตื่นๆ แปปเดียวก็ถึงสนามบินแล้ว ตอนออกจากห้องตี 4 กว่าๆ ตกใจมาก นึกว่า 7 โมงเช้า จะเช้าเร็วไปไหน ดูเวลาที่ตั๋วรถไฟสิ ตี 5 ครึ่ง สว่างซะ = ="

มาถึงแต่เช้า คนไม่เยอะมาก เคาเตอร์เช็คอินเพิ่งเปิด ก็รีบเอากระเป๋าไปโหลดเลย ข้าพเจ้าง่วงมาก จะหาที่นั่งหลับนก ฮ่าๆๆ แต่ต้องเดินไปที่เกจอีกไกลพอควร (ขากลับกระเป๋าหนักเกิน 20 โลทั้งสองใบ แต่เค้าก็ให้ผ่าน)

นั่งรอซักพักก็เรียกผู้โดยสารขึ้นเครื่อง ขึ้นแล้วเราก็หลับทันที เครื่องเทคออฟตอนไหนไม่รู้สึกเลย มารู้ตัวคือ เครื่องกำลังไต่ระดับ พยายามบอกตัวเองว่าอย่าหลับๆ แต่ไม่ไหวจริงๆ (คำเตือน ขณะเครื่องขึ้น-ลง เพื่อความปลอดภัยอย่าหลับนะ เพื่อเตรียมพร้อมรับมือหากเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน) มาตื่นตอนเค้ากำลังจะแจกข้าวสาย กินเสร็จก็หลับต่อ

 

เปลี่ยนเครื่องที่ไต้หวัน แล้วก็หลับต่อ (ก็ตื่นเช้าเกินนี่นา ฮ่าๆ)

 

ถึงไทยแล้ว สนามบินสุวรรณภูมิ เย้ จบทริปด้วยความสนุกและเหนื่อย (ขนาดหลับทั้งวัน)

Japan1 #9

วันที่ 8　พ.ค. 2553 เป็นวันที่ได้เดินเที่ยวเล่นในญี่ปุ่นวันสุดท้ายของทริปนี้แล้ว เพราะวันที่ 9 ต้องออกเดินทางกลับแต่เช้า วันนี้ตั้งใจไว้ว่าจะไปที่ตึกแฝดที่ทำการรัฐบาล (Tokyo Metropolitan Government Building) เพราะขึ้นฟรี และจะไปเก็บภาพมุมสูงของโตเกียวด้วย (จริงๆ เพราะเหตุผลแรก พวกชอบขึ้นที่สูงฟรีๆ) ออกจากที่พักกันเลย

ศาลเจ้าที่เดินผ่านตลอด 9 วันที่มาญี่ปุ่น เพราะอยู่ใกล้ที่พักมากๆ 

โตเกียวสกายทรี ยามเช้า พยายามเข้านะ ต่อไปจะได้เป็นตึกที่สูงที่สุดของญี่ปุ่นแทนโตเกียวทาว์เวอร์

ป้ายร้านอาหาร ที่เพิ่งรู้สึกตัวว่าน่าจะถ่ายเก็บไว้ (มาถ่ายเอาวันเที่ยววันสุดท้าย) ซึ่งไม่ได้เข้าซักร้าน ฮ่าๆ

 

ร้านนี้ก็เดินผ่านทุกวัน คาดว่าน่าจะเป็นร้านที่ขายของที่เกี่ยวข้องกับงานเทศกาล เพราะที่ประตูก็มีรูปเกี่ยวกับงานเทศกาล รูปตอนปิดร้านถ่ายตอนเช้าของวันที่ไปคามาคุระ

 

ยังมีตั๋วรถไฟเมโทร 2 วันอยู่ เลยไปลงที่สถานีชินจูกุ เดินตามป้ายไปเรื่อยๆ เลย ไม่ไกลเท่าไหร่ แค่เหนื่อยแฮ่กๆ (แต่เพื่อประหยัดเงิน และได้ดูวิวที่เราไม่เคยเห็นด้วย) ถ่ายรูปมาไม่ได้สนใจป้ายบอกทางเลย ดูแต่เจ้าทวิตตี้ 555

 

 

ใกล้ถึงจะมีแต่ตึกสูงๆ เต็มไปหมด อาคารสำนักงานทั้งนั้นเลย

 

 

 

มาถึงแล้ว ตึกแฝด Tokyo Metropolitan Government Building

 

 

 

 

 

 

 เดินดูข้างล่างจนพอใจก็เข้าไปในตึกกันเถอะ ^ ^ ตรวจจับโลหะแล้วก็มาต่อคิวขึ้นลิฟท์ มีพนักงานคอนกดชั้นให้ โค้งแล้วโค้งอีก สุภาพมากๆ

ด้านบน หลังจากนี้ด้วยความที่ถ่ายรูปมั่วซั่ว และจำไม่ได้ว่าขึ้นตึกฝั่งไหนก่อน ก็ดูวิวไปเถอะเนอะ ฮ่าๆ วิวจากชั้นที่... จำไม่ได้แหะ เอาเป็นว่าตึกข้างๆ เหมือนเมืองจำลองไปเลย ป่าคอนกรีต แต่ก็ยังมีสีเขียวๆ ให้เห็นอยู่บ้าง (ถ้าไปวันที่อากาศแจ่มใส ฟ้าเปิด จะมองเห็นฟูจิซังด้วย)

 

 

 

 

 

 

 

 

 

มองด้านนอกแล้วมาดูในตึกบ้าง ทั้งสองตึกด้านในตกแต่งไม่เหมือนกันนะ

 

 

 

 

ลงมาด้านล่างจะมีประวัติ และป้ายรวมของดีของแต่ละจังหวัดด้วย ถ่ายมาครบแต่ขอลงไม่ครบนะ ถ้าลงหมดนี่ เยอะเกิ๊น เริ่มจากป้ายรวมก่อนเลย

Toyama Ishikawa Fukui สามจังหวัดนี้มีอะไรดี ดูกันเลย

Kagawa Tokushima Ehime Kochi (ในรูปใช่ซากาโมโต้ เรียวมะ หรือเปล่าหว่า)

ออกจากตึกแล้วเก็บภาพสุดท้ายไว้ซักหน่อย

หลังจากนั้นเราก็รีบจรลีกลับสถานีชินจูกุ เพราะมีนัดตรงล็อกเกอร์ การตามหาในสถานีใหญ่ๆ อย่างชินจูกุนี่ยากเอาการแหะ

โอ๊ะเจอแล้ว นั่นงัย หน้าล็อคเกอร์ "ผมเป็นแพนด้าจากญี่ปุ่น" มาอยู่ตรงนี้ได้ยังไงเนี่ยหลินปิง! กลับเชียงใหม่เร็ว 555

แหมญี่ปุ่นเค้ายังฮิตแพนด้าเลยนะตัวเธอว์ ฮ่าๆ นอกเรื่องๆ กลับมาต่อดีกว่า เราจะไปที่อากิฮาบาระต่างหาก เพื่อซื้อเครื่อง Wii

 

 

ออกจากอากิบะก็ไปที่อาเมะโยโกะต่อ ครั้งนี้ไม่ได้ลงที่สถานีอุเอโนะนะ ลงก่อน 1 สถานี แล้วเดินย้อนเอา เพราะต้องหาซื้อของที่เค้าฝากซื้อที่ตึกม่วงให้ครบก่อน (ลำบากจังเลยน้า) หิ้วของเต็มมือ เดินเข้าอาเมะโยโกะ เจอขบวนแห่พอดี ว้าวนึกว่าจะไม่ได้เห็นซะแล้ว ของวางกดถ่ายรูปเลย เด็กๆ น่ารักมาก

 

 

 

 

เข้า H!P Shop ครั้งสุดท้ายก่อนกลับไทย พนักงานคงจำได้แล้ว มาทีไรหิ้วของเต็มมือทุกที แล้วก็ซื้อกลับไปเยอะทุกที

กลับห้องเก็บของออกมาศาลเจ้าเมื่อเช้าดีกว่า วันนี้มีโอกาสแล้วไหว้ส่งท้ายซะหน่อย (ขอให้ลูกได้มาเที่ยวญี่ปุ่นอีก เพี้ยง เขย่ากระดิ่ง โยนเหรียญ 5 เยน)

 

หลังจากนั้นก็ไปหาข้าวกินกลับห้องเก็บของเตรียมกลับบ้าน (เค้าอยากอยู่ต่อน้าาาาา)

รูปนี้ยืนถ่ายจากหน้าห้องย้อนออกไป

Wii & Wii Fit สองอย่างนี้หนักที่สุดที่ได้จากญี่ปุ่นแล้ว ราคารวม 27880 เยน 

มีเกลือวางหน้าทางเข้าด้วย ตามความเชื่อที่ว่าป้องกันสิ่งร้ายๆ ไม่ให้เข้ามาได้ (เอาเกลือสาดๆ)

อิจิโกะลูกใหญ่ๆ ที่ซื้อจากตลาด สองแพ็คนี้ราคา 400 เยน ลูกใหญ่มากจนต้องไปร้าน 100 เยนซื้อกล่องมาใส่เอากลับไทยมาฝากที่บ้านด้วยเลย หวาน อร่อย ^ ^

บรรยากาศงานเทศกาลเต็มไปหมดเลยน้า

แม้กระทั่งตรงฟ้อนท์ ก็มีป้ายนี้ด้วย จากการสอบถาม ตอบไม่ได้อะ เจ้าหน้าที่ไม่ใช่คนญี่ปุ่น ฮ่าๆ