ครั้งนี้เป็นการไปญี่ปุ่นครั้งที่ 2 ในชีวิตและในรอบปี ช่วงวันที่ 11-16 ธันวาคม 2553 ห่างจากครั้งแรกประมาณ 7-8 เดือน
มาเล่าสาเหตุที่ไปกันก่อนดีกว่า เนื่องจากมีการประกาศจบการศึกษาของสมาชิก morning musume ถึง 3 คน เป็นครั้งแรกเลยนะที่ออกพร้อมกันเยอะขนาดนี้ ปกติออกพร้อมกันมากสุดก็ 2 คน (คู่ทสึจิคาโกะ ไม่นับรุ่น 5 ที่ออก 2 คนนะ เพราะมาโกโตะยังได้เล่นละครเวทีก่อนออก) แต่ถ้านับว่าในปีก็ปกติ เพราะมีออก 3 คนในปีเดียวกันแล้ว (แต่สมาชิกที่เหลืออยู่ก็เหลือเยอะกว่าครั้งนี้อยู่ดี) สมาชิกที่ออกจากวงครั้งนี้เป็นรุ่น 6 กับรุ่น 8 คือ Kamei Eri, Jun Jun, Lin Lin จะทำให้สมาชิกจาก 8 คนลดเหลือ 5 คน ทริปนี้จึงเกิดขึ้น....
ด้วยความที่ฉุกละหุกทุกอย่าง วันคอนมีการเพิ่มมาแบบเซอร์ไพรส์ จำนวนคนที่คาดว่าตอนแรกจะไปกันเป็นสิบ เหลือผู้รอดชีวิต (ตามชื่อคอนเลยวุ้ย) แค่ 3 คน (ไปเจอที่ญี่ปุ่นอีก 1) งบประมาณมีไม่มาก แต่ความอยากมีมาก (เอ๊ยไม่ใช่แหล่ะ) ที่งบเหลือน้อยเพราะไปทุ่มกับตั๋วคอนรอบก่อนแกรดกันหมด (ดูกันคนละ 3 รอบค่าตั๋วสองรอบแรกสองหมื่นกว่าเยน จะเหลืออะไรมั๊ยนั้น ฮ่าๆ) ทางเลือกในการเดินทางจึงเป็นเวียดนามแอร์ไลน์ และที่พักแบบห้องรวม 4 คน ราคาคืนละ 2000 เยนต่อคน
เมื่อทุกอย่างพร้อมแล้ว ทั้งวีซ่า ตั๋วเครื่องบิน ที่พัก และตั๋วคอนเสิร์ต ก็ออกเดินทางกันเถอะ ที่เหลือไปตายเอาดาบหน้า หน้าลุย! เอ๊ะ หน้าเดิน!
เครื่องออกจากไทยในวันที่ 10 ธันวา ถึงญี่ปุ่นวันที่ 11 ธันวา และต้องเปลี่ยนเครื่องที่นครโฮจิมินห์ของเวียดนาม ดังนั้นเอนทรี่นี้ยกให้กับการเดินทางเลยแล้วกัน
ลืมถ่ายรูปสมาชิกในบอร์ดที่มาส่งเลย (อารมณ์ประหนึ่งมาส่งไอดอล ดีที่ไม่มีป้ายมาด้วยนะเนี่ย หุหุ)
เข้าตม.เถอะ เดี๋ยวแถวยาว (โดนถามด้วยไปกี่คนเนี่ย ต้องไปค้างเวียดนามด้วยน้า) หลังจากผ่านตม.มาเรียบร้อย ครั้งนี้ขอไม่ลงรูปที่ทุกคนต้องถ่ายแล้วกัน เปลี่ยนมุมกันบ้าง
ดูป้ายหน่อยสิ เวียดนามแอร์ไลน์ต้องไปเกจไหน (ในตั๋วมีไม่รู้จักดู)
ถึงแล้วเกจ F ไกลเหมือนกันน้า (ก็เดินเล่นกันจนเหนื่อย)
บรรยากาศระหว่างรอขึ้นเครื่อง (จริงๆ ก็ถ่ายมาหลายรูป แต่ถ่ายรูปไปเดินไป สั่นมากๆ เป็นพวกหยุดนิ่งๆ แล้วค่อยถ่ายรูปไม่ได้ก็งี้แหล่ะ)
บอร์ดดิ้งพาสสสสสส ใบบนจากไทยไปโฮจิมินห์,เวียดนาม เจ้าหน้าที่เช็คเรียบร้อย ใบล่างจากเวียดนามไปนาริตะ,ญี่ปุ่น ใบล่างสุด (ที่เห็นไม่ชัดนั่นแหล่ะ) ใบออกจากเมืองของประเทศไทย
ระหว่างเดินไปขึ้นเครื่อง เพิ่งรู้ว่ามีเก้าอี้แบบนี้ตรงที่รอขึ้นเครื่องด้วย o.O
ครั้งที่แล้วไปกับเจ้าดอกบ๊วย ครั้งนี้ไปกับเจ้าดอกบัว เข้าไปในดอกบัวกันเถอะ เที่ยวบินที่ VN0852 เป็นเครื่อง Airbus A321 ที่นั่งเป็น 2 แถว นั่ง 3-3
พอเครื่องไต่ระดับได้เต็มที่ก็เริ่มแจกอาหาร เพราะระยะเวลาบนเครื่องน้อย แค่ 1 ชั่วโมงครึ่ง ต้องทำเวลากันหน่อย (เหมือนจะเป็นปลามั๊งนะ ลืม ฮ่าๆ)
กินอิ่มนั่งชมความมืด+คุยไปเรื่อยๆ แปปเดียวก็ถึงเวียดนามแล้ว แต่ไม่มีงวงช้างมาต่อที่เครื่องนะ ต้องนั่ง(ยืน)รถบัสเข้าเทอร์มินัลกัน ลำนี้แหล่ะที่นั่งมา
มาถึงเทอร์มินัล ยังไม่ทันไร รถก็รีบออกแล้ว ได้รูปรถมาแบบเบลอๆ
ผ่านด่านตรวจโลหะ จะตรวจอะไรกันหนักน้า จากกรุงเทพก็ตรวจแล้ว จะเข้าไปนั่งรอที่เกจก็ตรวจอีก
และแล้วเราก็หลุดพ้นด่านทั้งหลายมาได้โดยปลอดภัย เดินเล่นกันดีกว่า เวลาเหลือเยอะกว่าเครื่องจะออกอีกที มีเวลาเดินเล่น 2 ชั่วโมงกว่า (เยอะกว่านั่งมาเวียดนามอีกอะ) คนขายของที่นี่ใส่ชุดพื้นเมืองของเวียดนามหมดเลย (แต่ดุมาก รอวันกลับจะเล่าให้ฟังว่าดุยังไง)
ป้ายห้องน้ำภาษาเวียดนาม เดินไกลนะห้องน้ำเค้าเนี่ย แถมอยู่ซะลึกอีกต่างหาก
เดินไปเกจกันเถอะ ไปดูว่ามีอะไรให้เล่นบ้างหรือเปล่า ทางเดินไปเกจ 19 (ที่นี่ไม่ใหญ่มาก เพราะเดินแปปเดียวก็ทั่ว <<เดินหาคอมเล่นซะทุกเกจ)
คิดว่าน่าจะเป็นเจ้าดอกบัวลำนี้ที่จะพาเราไปญี่ปุ่นนะ เพิ่งมาเทียบท่า
หน้าตาเกจ 19 ที่นั่งรอเครื่อง มีคอมให้เล่นเกจละ 2-3 เครื่อง แต่ใช้ได้จริงอาจจะแค่ 1 เครื่อง (หรือใช้ไม่ได้เลย ฮ่าๆ)
แต่ตอนที่ไปถึงคงเพราะห่างจากเวลาอีกนาน คอมเลยใช้ไม่ได้ซักเครื่อง เดินไปดูเกจอื่นก็ได้ ป้ายบอกรายละเอียด ไม่อลังเท่าที่สุวรรณภูมิเลย
ได้เครื่องคอมไว้เล่นทวิตบอกกลับที่ไทยแล้ว เย้ ^ ^ คอมอ่านญี่ปุ่นไม่ออก อ่านไทยได้ แต่พิมพ์ไทยไม่ได้ สุดยอดไฮโซ ทวิตเตอร์ และบอร์ด mm-thailand @VIETNAM (ด้วยความลำเอียงอย่างถึงที่สุด เราจึงได้หัวบอร์ดด้านนี้ ฮ่าๆๆๆ)
เล่นจนเบื่อก็ยังมีเวลาเหลือ เริ่มเดินเล่นอีกรอบ เอ๊ะนี่คืออะไรอะ?? เป็นกระดาษมีเพียบเลยวางอยู่ในกล่องพลาสติกใส ติดกับผนัง
คำเฉลยยยยย (เก็บมาฝากเพื่อนๆ กันเพียบ บ้านเราไม่มี ฮ่าๆ)
ส่วนอันนี้ไม่ได้เอามาฝากใคร และไม่ได้ส่งให้ใครนะ ช็อคโกแลตในแพ็คเกจที่น่าสนใจ แต่เราไม่มีเงินซื้อ (มองไกลๆ ดูไม่ออกนะเนี่ย)
เล่นจนเพลิน ทั้งนอนเล่น ทั้งเดินเล่น ก็ได้เวลาขึ้นเครื่องแล้ว ง่วงมากๆ ด้วย จะเที่ยงคืนแล้วนี่นา หมดพลังงานไปกับการเล่นทุกอย่างที่เล่นได้ ครั้งนี้เป็นเที่ยวบิน VN950 กว่าเครื่องจะเทคออฟก็เที่ยงคืนนิดๆ แล้ว ไม่แน่ใจว่าใช่เครื่อง Airbus A330 หรือเปล่า เพราะไฟลท์นี้ไม่เห็นมีบินแล้ว (หรือแค่เปลี่ยนเลขไฟลท์ ช่างเถอะ) ที่นั่งเป็นแบบ 2-4-2 ดังนั้นจะต้องมีคนหนึ่งไปนั่งคนเดียว แต่ได้นั่งติดหน้าต่าง เพราะรีเควสไว้ (โทรรีเควสโดยตรงกับสายการบินเลย) ที่นั่งหรูกว่าเที่ยวแรก มี PTV ให้ดูด้วย
ออกจากโฮจิมินห์แล้ว บายบาย เดี๋ยวค่อยกลับมาเจอกันใหม่น้า
เครื่องยังไม่เทคออฟห้ามหลับ ครั้งนี้ไม่ง่วงเท่าครั้งที่แล้ว ระหว่างรอเวลานอน รื้อๆ ใบรายการออกมาดู โอ๊ะมีเพลง C-ute ด้วย (แต่จากการเปิดฟังก่อนหลับ วนยังไงก็ไม่เจอเพลงนี้เลย โดนหลอกอ่า T^T)
ก่อนจะหลับก็ได้รับแจกขนมของว่าง เป็นถั่วตราดอกบัว แต่จะนอนไม่กินโยนใส่กระเป๋าเรียบร้อย (นี่คือเหตุผลว่าทำไมไม่มีรูปขนม ฮ่าๆ) หลับได้เกินครึ่งทางมาพอควร ประมาณ 2 ชั่วโมงก่อนถึงโตเกียวก็แจกอาหาร ให้กินข้าวเร็วไปมั๊ยอ่า แต่ก็กินนะ (ซึน) ข้าวกับกุ้งก็งั้นๆ แต่ผักดองอร่อยเปรี้ยวนิดๆ สดชื่นมากๆ ไข่หวานชืดไปเลยงั้นๆ แต่ควักเนยมากินเล่นหมดเลย ฮ่าๆ
รายละเอียดที่ได้จาก PTV หลังจากกินข้าวเสร็จ (เป็นเด็กดีห้ามกินแล้วนอนนะ เดี๋ยวไขมันจุก) จริงๆ แล้วเพราะนอนต่อไม่ได้ต่างหาก กินข้าวผิดเวลา โดนปลุกผิดเวลา ตาค้าง รับผิดชอบชีวิตเค้าเลยนะ
อีก 1.24 ชั่วโมงจะถึงโตเกียว เวลาที่เวียดนามตอนนี้คือตี 4 (เวลาเดียวกับไทย) เวลาที่ญี่ปุ่นตอนนี้คือ 6 โมงเช้า จะถึงประมาณ 7 โมงครึ่ง
นั่งดูวิวที่ใกล้เช้าไปเรื่อยๆ สวยมากๆ แสงสีส้มจะมาจากทางด้านขวาของเครื่อง จนมาถึงฝั่งซ้ายของเครื่อง
และแล้วสิ่งที่พลาดไปจากทริปที่แล้ว เราก็ได้เห็นแล้ว ฟูจิซังที่มองจากเครื่องบินแม้เมฆจะเยอะก็ตาม ปลื้มๆ แต่กล้องคอมแพคซูมได้แค่นี้ พยายามมองกันหน่อยแล้วกันว่าฟูจิซังอยู่ไหน ฮ่าๆๆ
ตอนแลนดิ้งข้างนอกอากาศเย็นมาก หมอกก็เยอะมาก ทำให้มองไม่เห็นว่าถึงพื้นหรือยัง รู้สึกตอนกางล้อแล้วก็ตอนล้อถึงพื้น (ถึงแล้วก็ยังมองไม่เห็นพื้นเลยอะ หมอกเต็มไปหมด) ถึงสนามบินแล้ว อย่างแรกเลยก็ต้องเป็นห้องน้ำที่นาริตะ ป้ายเป็นภาษาญี่ปุ่นแล้วน้า
ด้านนอกเย็นจนมีน้ำแข็งที่พื้นเลย บรรยากาศตอน 7 โมงเช้าที่ญี่ปุ่น
ขอบคุณเจ้าดอกบัวลำนี้ที่ทำให้มาถึงญี่ปุ่นโดยปลอดภัย
Yokoso! Japan ขอเป็นที่ระลึกซักภาพนะ (แหะแหะ ภาพสมาชิกในทริปไม่ลงแล้วกัน)
เนื่องจากที่เราลงไม่ใช่อาคารหลักของเทอร์มินัล 2 ต้องนั่งรถ (เรียกว่าอะไรหว่าที่วิ่งระหว่างอาคารไม่มีคนขับอะ ไม่ใช่คำถามนะ ลืมจริงๆ) ไปที่อาคารหลัก เพื่อไปตม.ญี่ปุ่น
มีสองคัน วิ่งสลับกัน ระหว่างอาคาร หน้าตาของรถเหมือนกันเด๊ะ ด้านในมีที่นั่งด้วย แต่พับติดกับผนังรถ เลยไม่รู้ ยืนกันตามสบายเลย ฮ่าๆ
ผ่านตม.เรียบร้อย นี่เราอยู่ญี่ปุ่นแล้วเย้ เดินหาที่ซื้อตั๋วรถไฟเมโทร ลืมด้วยว่าซื้อจากตรงไหน เดินวนซัก 3 รอบได้ มึนเลย แล้วก็ลงไปชั้นล่างเพื่อขึ้นรถไฟเคย์เซย์เข้าโตเกียว ปลายทางอยู่ที่สถานีอาซาคุสะ คันนี้แหล่ะที่เรานั่งไปกัน
วันเที่ยววันแรก รอติดตามได้ที่เอนทรี่หน้านะ (จะอัพเมื่อขยัน ^ ^)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น