วันเสาร์ที่ 10 กันยายน พ.ศ. 2554

Japan2 #5

วันที่ 14 ธันวาคม 2553 วันที่ 4 ในญี่ปุ่น ตื่นมาพร้อมความหนาว อุณหภูมิประมาณ 7-8 องศา บรื๋อ น่านอนต่อจริงๆ แต่วันนี้ไปฉายเดี่ยวที่คามาคุระ ต้องแซะตัวเองจากที่นอนให้ได้ ว่าแล้วก็ออกเดินทางกันเลยที่กว่า พอถึงคามาคุระฝนก็ยังคงตกต่อตามพยากรณ์อากาศแป๊ะเลย หนาวและไม่มีคน ฮ่าๆ ดูสิ โล่งมาก
 
 

มองไม่เห็นใช่มัียว่าฝนตก ฮ่าๆ งั้นดูกันชัดๆ ว่าฝนตกจริงๆ น้า

ปกติตรงนี้คนต้องมีเยอะมาก แต่วันนี้หายเกลี้ยง (แอบถูกใจ ฮ่าๆ ฝนตกไม่แรงมาก ไม่มีคน โรแมนติกมาก << ตรงไหนหว่า)

เข้ามาด้านใน ยังพอมีนักท่องเที่ยวให้เห็นบ้างเล็กน้อย แต่หลังจากนี้แปปเดียวก็หายไปจนหมดเลย

ใบไม้แดง เหลือง เขียว กลางสายฝน

องค์ไดบุทสึ แบบไม่มีนักท่องเที่ยวเลย ^ ^  (มีแต่สายฝน)
 
 

ออกจากวัดกันเถอะ ต้องรีบกลับไปหาข้าวกินที่โยโกฮาม่า และกลับชิมบาชิ ขนาดด้านนอกยังไม่ค่อยมีคนเลยเนอะ (ชอบนะ แต่แฉะไปหน่อย ฮ่าๆ)
 

หลังจากไปโยโกฮาม่าแล้วก็ไม่มีรูปแล้ว เพราะรีบทำเวลา กลับไปชิมบาชิ เพื่อออกเดินทางไปสถานีอากาบาเนะฮาชิ เพื่อไปแถวนี้
 

แวะดูแบบนี้ แบบนี้ แบบนี้ แล้วก็แบบนี้ ฮ่าๆ
 
 

หลังจากนั้นก็กลับ ตอนขามาก็ไม่รู้หรอกว่าอยู่ตรงไหน เดินอย่างเดียว ขากลับก็เดินอย่างเดียวแต่หลงทาง ฮ่าๆ จนไปเจอแบบนี้เลย ยืนดูกันเพลินจนเกือบลืมว่าต้องไปที่อื่นต่อ (เห็นมืดๆ เอาเข้าจริงๆ ก็ยังไม่ดึกเท่าไหร่นะ แค่ช่วงเย็นๆ ประมาณ 6 โมงเย็นได้)
 
 
 
 

หลังจากดูจนพอใจก็ไปนากาโน่บรอดเวย์กัน เพื่อไปร้านขายของมือสอง จมอยู่ในนี้ประมาณชั่วโมงได้มั๊ง ก็ออกเดินทางไปหาข้าวเย็นกิน

ในนากาโน่บอร์ดเวย์ก็มีของกินเยอะแต่เราหยิ่งค่ะ ตั้งเป้าตั้งแต่อยู่เมืองไทยแล้วว่าต้องไปร้านนี้ให้ได้ คุราซูชิ สาขาที่ใกล้ที่สุดคือสาขาสุมิดะ ใกล้ที่พักเรานั่นเอง (เหรอ) ขึ้นรถไฟที่สถานีอาซาคุสะ ตรงแถวห้างที่ตั้งอยู่ริมแม่น้ำอะ (จำชื่อไม่ได้แล้ว) หลังจากนั้นก็นั่งต่อไปอีกครึ่งชั่วโมงได้ ไม่ไกลนะแค่รถไฟวิ่งช้ามาก ฮ่าๆ พอลงซักสถานีแล้วก็ต้องเดินต่อไปอีก เจอเซเว่นแวะซักหน่อย ฮ่าๆ แล้วก็ถึงจนได้

 ร้านนี้เป็นร้านขายซูชิจานหมุน มีสายพานหมุนรอบๆ ตัวเรา ราคาจานละ 105 เยน บางจานก็มี 2 ชิ้น บางจานก็มี 1 ชิ้น ขึ้นกับชนิดของหน้าซูชิ เวลาสั่งก็เดินเข้าไปนั่งได้เลย (มีพนักงานพาไปนะ)

บนโต๊ะจะมีผงชา และเครื่องเคียงทั้งหมดวางอยู่ ส่วนแก้วจะอยู่ด้านบนเคาเตอร์

ใส่ผงชาให้เรียบร้อย แล้วก็กดน้ำร้อน ก๊อกจะแข็งหน่อยต้องดันตรงแป้นกลมๆ แรงๆ แต่ระวังน้ำร้อนลวกมือ

มากินกันเถอะ หยิบจากบนสายพาน ระวังอย่าหยิบที่มีจานแดงๆ อยู่ด้านล่างนะ น่ากินเนอะ
 

ถ้าอยากกินแบบอื่นที่ไม่มีในสายพานก็กดสั่งที่หน้าจอได้เลย

แล้วของเราก็จะมาในจานแดงแบบคนอื่นๆ แล้ว เวลาเมนูเรามาจะมีเสียงดังปิ๊ปๆๆ แจ้งให้รู้ว่า เป็นเมนูของเรา

อันนี้เหลือแต่จาน ของเค้าเอาออกไปแล้ว

กินเสร็จก็เรียกพนักงานมาได้เลย เค้าจะนับจำนวนจานให้เรา แล้วเราก็มีหน้าที่เอาจานใส่ลงไปในช่องนี้ (บางจานใส่ไม่ได้ก็วางบนโต๊ะนั่นแหล่ะ)

พอใส่ครบ 5 จาน จอที่เราใช้สั่งอาหารจะกลายเป็นการหมุนกาชาปอง แต่ละครั้งจะเปลี่ยนแบบไปเรื่อยๆ นะ ตกปลาบ้าง สล็อตบ้าง ถ้าได้ก็จะมีกาชาปองออกมาจากด้านบน

หลังจากนั้นก็จะได้บิลแบบนี้ไว้ไปจ่ายเงินที่เคาเตอร์ด้านหน้า (จะมีตัวเลขเขียนรายละเอียดแล้วนะ)

กินแทบตายเพราะจะให้ครบจำนวน 5 จาน เพื่อหมุนหาชาปองได้มาแค่ 1 ตัว แต่ด้านหน้ามีตู้กาชาปองอยู่ จ่าย 200-300 เยนก็ได้มาแล้ว 1 ตัว (แล้วจะพยายามกินกันทำไมเนี่ย จุก) โอ๊ะ ยังไม่ได้บอกเลยเนอะว่าที่ไปร้านนี้เพราะในร้านมีเพลงมอร์นิ่งเปิดตลอดเลย (สาวๆ เค้าร้องเพลงโปรโมทร้านให้ ช่วงแรกใครกินครบมีลุ้นซิงเกิ้ลซูชิ ลิมิตเฉพาะร้านคุระซูชิด้วย ไปไม่ทัน = =")

วันนี้จบแบบเหนื่อยมาก ไม่ใช่เดินเหนื่อยนะ แต่กินเหนื่อย จุก วันรุ่งขึ้นเป็นคอนรอบแกรดของเอริ จุน หลินแล้วสิ (พิมพ์ตอนนี้ยังจะร้องไห้ตามอยู่เลยอะ)

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น